PitaPata Dog tickers
Riding Momory
สวัสดีค่ะ

เมื่อวาน(16 ตค.)หนูไปหาคุณหมอจิ๊บตามที่คุณหมอได้โทรมาเตือนป่าป๊าเมื่อวานซืน ชั่งน้ำหนักได้ 34.4 กก. เท่าสัปดาห์ที่แล้ว และพี่ชุดแดงวัดอุณหภูมิทางก้นด้วยแท่งแก้วเย็นๆได้ 102 ํF ทะเลมีคลื่นเล็กน้อย เอ้ยเป็นอุณหภูมิปกติ ไม่มีไข้ คุณหมอได้ขูดเอาผิงหนังตรงขาหลังด้านซ้ายไปส่องกล้องจุลทรรศน์ตรวจหาเชื้อ(ตัวไร Demodex) ปรากฏว่าไม่เจอ (ไชโยโห่ฮิ้ว!) ที่โคนหางขนก็เริ่มงอกเยอะขึ้น คุณหมอบอกจะหยุดจ่ายยากิน แต่ให้ใช้แชมพูยาต่อไป ส่วนสาเหตุที่ง่ามนิ้วเท้า(ก็หนูไม่มีนิ้วมือไง)มีผื่นแดงเห่อนั้นเป็นเพราะหนูแพ้สารต่างๆเช่น ดินหรือความชื้น และเชื้อราซึ่งคุณหมอบอกมันเป็นเชื้อที่ชอบฉวยโอกาสในทุกโรคผิวหนังเลย (แหม ถ้าพวกนักฟุตบอลศูนย์หน้าทีมชาติไทยเป็นอย่างเชื้อราบ้างก็ดีเนาะ จะได้ฉวยโอกาสทำประตูคู่ต่อสู้เยอะๆเผื่อจะได้ไปบอลโลกกับเขามั่ง แล้วหนูจะยกย่องให้เกียรติตั้งฉายาให้เลย เช่น ซิโก้เชื้อรา, ลีซอเชื้อรา เป็นต้น) ซึ่งแชมพูยาก็สามารถบรรเทาได้ แต่ยังไงก็ควรระวังอย่าให้หนูไปเล่นน้ำแฉะๆ ย่ำดินเปียกๆ น้ำครำโคลนเลนสกปรก เดี๋ยวจะทำให้หนูมีอาการแพ้ขึ้นมาอีก ป่าป๊าเลยขอให้คุณหมอจ่ายครีมทาผิวหนังแก้แพ้อักเสบเผื่อไว้ ส่วนที่ยังมีรอยแผลนั้นคุณหมอให้ทายาเบทาดีนเอาเดี๋ยวก็หาย


พูดถึงเรื่องนี้ทำให้หนูนึกถึงเรื่องที่หนูชอบวิ่งไล่เจ้าตัวประหลาดหางยาวคล้ายจิ้งจกแต่ตัวใหญ่กว่า ป่าป๊าเรียกมันว่ากิ้งก่า มันชอบอยู่บนต้นไผ่บ้าง ต้นกุหลาบบ้าง บางทีมันก็ออกมาวิ่งในสนามหญ้า ตอนหนูเจอมันครั้งแรกมันอยู่บนต้นกุหลาบดอกสีชมภู มันตกใจกระโดดลงมาบนพื้นสนามหญ้าหนูก็ตกใจกระโดดถอยหลัง มันหยุดมอง หนูก็เลยเดินเข้าหามันจะขอดมๆสักหน่อย มันกลับวิ่งหนีไปเร็วปรื๋อเลย แล้วก็หยุดอีก พอหนูเข้าไปหามันใกล้ๆมันก็วิ่งอีก วิ่งๆหยุดๆ จนมันปีนขึ้นต้นโมกหลวงต้นใหญ่ หนูรอมันปีนลงมาตั้งนานก็ไม่ยอมลง ก็เลยเลิกเล่น ตั้งแต่นั้นมาหนูเจอมันทีไรก็จะชวนมันวิ่งไล่กันตลอดเลย พอดีหน้าฝนสนามหญ้าแฉะอีกทั้งหนูมีปัญหาเรื่องผิวหนังป่าป๊าก็เลยไม่ให้เล่นอีกยกเว้นไปฉี่ไปอึ๊ แล้วพาหนูไปเดิน-วิ่งที่สวนหย่อมและตามซอยต่างๆในหมู่บ้านซึ่งทำให้หนูรู้จักกับเพื่อนๆเยอะเลยไว้จะแนะนำให้รู้จักกันวันหลังนะคะ วันนีหนูขอแนะนำเจ้ากิ้งก่าคู่ปรับให้รู้จักก่อนก็แล้วกัน พอด๊ป่าป๊าเจอมันวันก่อนและได้ถ่ายรูปมันไว้ให้หนูเอามาโชว์ค่ะ

หม่าม้าได้ถามคุณหมอเรื่องจะเปลี่ยนอาหารให้หนูเป็นอาหารสุนัขโตสูตรปลาหรือสูตรข้าวโพดดี คุณหมอแนะนำว่าก็ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากบำรุงน้องหมาเราอย่างไรเช่นถ้าหากอยากให้มีขนสวยเป็นเงางามก็ใช้สูตรปลา(มันมีน้ำมันปลาซึ่งช่วยบำรุงขน) แต่ถ้าเป็นสูตรข้าวโพดก็จะช่วยควบคุมน้ำหนักทำให้หุ่นดีเนื่องจากมีใยอาหารเยอะนั่นเอง ที่จริงยังมีอีกหลายสูตรให้เลือก เดี่ยวป่าป๊าจะหาข้อมูลมาให้อ่านนะคะยกเว้นสูดเตี๋ยวคงจะไม่มีแน่ๆ(อิอิ) ตอนท้ายหม่าม้าเค้าสงสัยว่าที่ถุงใส่อาหารหนู(เป็นอาหารสำหรับลูกสุนัขพันธ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์(Labrador Retriever Breed)ของรอแยลคาไนน(Royal Canin)ชนิดเม็ด)เขียนว่าสำหรับลูกสุนัขอายุ1ถึง15เดือน แต่ที่ฟาร์มเกิดของหนูบอกว่าให้เปลี่ยนอาหารเมื่อหนูอายุได้12เดือน คุณหมอก็บอกว่าสามารถเปลี่ยนได้โดยดูได้จากที่หนูโตเร็วมีรูปร่างใหญ่เกือบเต็มที่แล้ว ออกจะอ้วนไปนิดนึง แล้วอาหารสำหรับลูกสุนัขมันจะมีโปรตีนและสารอาหารต่างๆสูง อาจทำให้อ้วนได้ง่าย แต่ถ้าจะกินต่อไปตามฉลากก็ได้เพียงแต่ลดปริมาณลงให้พอเหมาะกับความต้องการของร่างกายหนู(แต่ใจหนูบอกมากๆยิ่งดีฮ่ะ)

สรุปหม่าม้าบอกว่างั้นก็ให้หนูกินอย่างเดิมก็แล้วกัน ป่าป๊าเองอยากจะให้เปลี่ยนเป็นสูตรปลาเพราะเค้าก็ชอบกินปลาเหมือนกัน หม่าม้าเลยว่าป่าป๊าประสาทแล่ก! จบข่าว.

แล้วพบกันใหม่น้า บ๊ายบาย

ไมโล
Saturday, October 17, 2009






Bookmark and Share
0 Responses
Related Posts with Thumbnails